ทำความสะอาดบ้านอย่างไรให้รวดเร็วและถูกวิธี
1.เคล็ดลับทำความสะอาดห้องนั่งเล่น
ผ้าม่าน เคล็ดลับการทำความสะอาด แนะนำให้หมั่นดูดฝุ่นผ้าม่านอย่างสม่ำเสมอ และควรทำความสะอาดด้วยการซักทุก ๆ 1 – 3 เดือน อย่าลืมตากแดดจัดสักหน่อย เพื่อให้แสงแดดช่วยจัดการพวกไรฝุ่น เชื้อโรคต่าง ๆ ที่เกาะติดอยู่
พรมปูพื้น พรมเป็นของแต่งบ้านที่ทำความสะอาดค่อนข้างยาก ยิ่งกับพรมปูพื้น ผืนใหญ่ ๆ ซึ่งอาจมีทั้งเศษอาหาร เศษขนม ขนสัตว์เลี้ยง และฝุ่น การทำความสะอาดพรมนั้น อันที่จริงก็ไม่ยากอย่างที่คิด อุปกรณ์ที่ต้องมี คือ เครื่องดูดฝุ่นที่หัวแปรงนุ่มๆ ซักเครื่อง หมั่นดูดฝุ่นเป็นประจำทุกสัปดาห์ เท่านี้ก็ช่วยให้พรมในบ้านสะอาดขึ้นได้ หากวันไหนเผลอทำน้ำหกใส่ ให้รีบซับด้วยผ้าแห้ง หรือกระดาษชำระ ไม่ควรถู และไม่ควรขัดพรมเด็ดขาด เพราะจะทำให้พรมเสียหาย หากไม่แน่ใจเรื่องการทำความสะอาด ก็สามารถเรียกใช้บริการแม่บ้าน หรือผู้เชี่ยวชาญได้เลย
ทีวี เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มักจะพบได้บ่อยที่ในห้องนั่งเล่น ที่แน่นอนว่านอกจากจะรวมความบันเทิงแล้ว หลังทีวียังมีฝุ่นต่าง ๆ เกาะอยู่อีกด้วย ดังนั้น แนะนำให้คุณทำความสะอาดเป็นประจำด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดทุกส่วน ยกเว้นส่วนของหน้าจอทีวีที่ควรใช้น้ำยาสำหรับการเช็ดหน้าจอทีวีโดยเฉพาะ
คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ค ห้องนั่งเล่นเป็นจุดที่วางอุปกรณ์สำหรับการทำงานไว้ไม่น้อย ดังนั้น ควรหมั่นทำความสะอาดคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คอยู่เสมอ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดจอโดยเฉพาะ นอกจากนี้ควรที่จะหาอุปกรณ์สำหรับการปัดฝุ่นหรือพู่กันปัดฝุ่นที่เม้าส์ หน้าจอ หรือคีย์บอร์ด เป็นต้น
2.เคล็ดลับทำความสะอาดห้องนอน
หมอน สำหรับการนอนหนุนในแต่ละคืน ที่คุณจะต้องตรวจสอบดูว่าวัสดุของหมอนที่คุณใช้งานสามารถทำความสะอาดได้หรือไม่ ซักได้หรือเปล่า ถ้าหากไม่สามารถซักได้ แนะนำให้ตบๆ ฝุ่นออก และตากแดดจัดเป็นประจำทุกสัปดาห์ ในกรณีที่สามารถทำความสะอาดด้วยการซักได้ แนะนำให้คุณซักมือ ด้วยน้ำสบู่และน้ำอุ่นผสมกัน จะทำให้คราบและสิ่งสกปรกเกาะค้างต่างๆ หลุดออกได้ง่าย
ที่นอน ที่นอนของคุณไม่ว่าเป็นรูปแบบเตียงนอน เบาะนอนหรือชุดเครื่องนอนที่ครบถ้วน แนะนำให้ทำการดูดฝุ่นที่นอนทุกสัปดาห์ ในกรณีที่มีคราบต่างๆ แนะนำให้นำน้ำสบู่ผสมกับน้ำอุ่นมาขัดเบาๆ จะช่วยจัดการออกและทำความสะอาดได้ง่าย
ผ้าห่ม สำหรับผ้าห่มหรือผ้านวมในห้องนอน คุณสามารถที่จะนำมาทำความสะอาดได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามอย่าลืมเช็คคำเตือนหรือวิธีการซักที่ระบุมาพร้อมกับชนิดผ้าห่มของคุณ นอกจากนี้แนะนำให้นำผ้าห่มหรือผ้านวมออกมาตากแดดจัดเป็นประจำเพื่อจัดการเชื้อโรคต่าง ๆ
3.เคล็ดลับทำความสะอาดห้องครัว
ชุดเครื่องเงิน อุปกรณ์ภายในครัวที่เป็นเครื่องเงิน เช่น หม้อ กระทะ ช้อนหรือส้อม เป็นต้น คุณสามารถเพิ่มความสวยเงางามและสะอาดเรียบร้อยได้ด้วยการผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำอุ่น จากนั้นให้นำเครื่องเงินต่าง ๆ ภายในครัวไปแช่ไว้ราว ๆ 10 – 15 นาที ก่อนที่จะเอาออกมาล้างและเช็ดให้เรียบร้อย
เครื่องครัวสแตนเลส เป็นอุปกรณ์ที่สามารถพบได้บ่อยในห้องครัว ซึ่งถ้าหากคุณพบเห็นเครื่องครัวสแตนเลสในครัวของคุณเก่า ดูโทรม ดำคล้ำ มีคราบเกาะแน่น สามารถที่จะทำความสะอาดได้ง่ายๆ ด้วยการนำน้ำส้มสายชู, น้ำยาล้างจ้าน หรือ แอลกอฮอล์ มาทาให้ทั่วบริเวณเครื่องครัว หลังจากนั้นให้ขัดและเช็ดออกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
อ่างล้างจาน แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูเทที่บริเวณท่อน้ำทิ้ง หลังจากนั้นให้คุณนำน้ำยาสำหรับการฟากขาวและผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดโดยเฉพาะมาเช็ดล้างที่บริเวณอ่างล้างจานเป็นประจำ
4.เคล็ดลับทำความสะอาดห้องน้ำ
เพดานห้องน้ำ ผนังห้องน้ำ เป็นจุดที่พบคราบสกปรกได้บ่อย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่น นำมาราดให้ทั่วบริเวณของผนัง หลังจากนั้นนำผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าสะอาด ชุบเข้ากับน้ำสบู่หรือผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดโดยเฉพาะ เช็ดล้างให้เรียบร้อยพร้อมกับล้างอีกรอบด้วยน้ำสะอาดเย็นๆ
ชักโครก เป็นจุดที่สำคัญอย่างมากสำหรับการทำความสะอาด โดยแนะนำให้คุณเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะ ราดเทไว้ที่บริเวณโถสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นให้ใช้แปรงขัดห้องน้ำเช็ดให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จสิ้นแล้วให้ปิดฝาโถแล้วกดชักโครกล้างซ้ำ นอกจากนี้เคล็ดลับที่จะช่วยได้เช่นกันก็คือ การนำน้ำส้มสายชู มาเททิ้งไว้ 5 – 10 นาที จะช่วยจัดการคราบสกปรกต่าง ๆ ได้ดีเลยทีเดียว
อ่างล้างหน้า เป็นจุดที่สามารถพบเชื้อโรค สิ่งสกปรกเกาะติดได้ง่าย แนะนำให้คุณใช้แปรงขัดหรือแปรงสีฟันมาขัดรอบๆ บริเวณที่เป็นซอกและก๊อกน้ำ เพื่อเคลียร์คราบหินปูนเกาะติด คราบสกปรกฝังแน่น
